เครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอน (Centrifuge)

Last updated: 2 ก.พ. 2567  |  439 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอน (Centrifuge)

เครื่องปั่นเหวี่ยนตกตะกอน / เครื่องปั่นเลือด (Centrifuge)

คือเครื่องมือแพทย์ที่ใช้งานในโรงพยาบาล, คลินิก หรือแล็บ ฯลฯ โดยความสามารถของตัวเครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอนคือสามารถปั่นเหวี่ยงได้ โดยความสามารถที่จะปั่นได้ด้วยความเร็วสูงหรือต่ำขึ้นอยู่ชนิดของหัวปั่นและการออกแบบของผู้ผลิต 

เครื่องปั่นเหวี่ยงมีจุดประสงค์เพื่อนำตัวอย่างที่ต้องการนำไปวิเคราะห์ต่อมาทำการปั่นเหวี่ยงเพื่อทำการแยกชั้นตัวอย่าง ให้ชั้นที่มีความหนาแน่นหรือมีน้ำหนักที่เยอะกว่าตกตะกอนไปอยู่ข้างล่าง และชั้นด้านบนก็จะเป็นชั้นที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าหรือน้ำหนักเบากว่า
 
ตัวอย่างประเภทใดบ้างที่ใช้กับเครื่องปั่นเหวี่ยง



เครื่องปั่นเหวี่ยงสามารถปั่นเหวี่ยงตัวอย่างประเภทเลือด, ปัสสาวะ, ชิ้นเนื้อ หรือน้ำเชื้อได้ ซึ่งจุดประสงค์ในการปั่นก็จะมีความแตกต่างกันไปตามงานนั้น ๆ

 

ประเภทของหัวปั่น 



หัวปั่นของเครื่องปั่นเหวี่ยงสามารถจำแนกออกได้หลายประเภท โดยหากเราจำแนกประเภทด้วยองศาในการปั่นเหวี่ยง จะสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

1.หัวปั่นแบบ Fixed Angle Rotor

Fixed Angle Rotor คือ หัวปั่นที่ใช้ร่วมกับเครื่องปั่นเลือด (Centrifuge) โดยเป็นหัวปั่นชนิดที่มีมุมคงที่ในการปั่นตั้งแต่เริ่มต้นจนหยุด (อยู่ที่ 25-40 องศา ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ผลิต) ซึ่งจะสามารถพบได้บ่อยกว่าหัวปั่นแบบ Swing Out Rotor เนื่องจากราคาที่ถูกกว่า แต่ถึงแม้จะถูกกว่าก็ยังสามารถปั่นเหวี่ยงตัวอย่างได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ (โดยราคาที่สูงกว่าของ Swing Out Rotor อาจแบ่งออกได้เป็นหลายปัจจัย เช่น จำนวนความจุหลอดตัวอย่างที่สามารถจุได้มากกว่า เป็นต้น)  


2.หัวปั่นแบบ Swing Out Rotor

เป็นหัวปั่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เนื่องจากว่า ในขณะที่ปั่น Swing Out Rotor ตัว Bucket ที่แขวนอยู่กับตัว Rotor จะถูกเหวี่ยงจนอยู่ในแนวนอน


หัวปั่นสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้หรือไม่ ?

หัวปั่นจะสามารถเปลี่ยนได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ผลิต หากหัวปั่นมีขนาดที่ใกล้เคียงกันและมีวิธีการติดตั้งที่เหมือนกัน ก็อาจจะใช้ด้วยกันได้ ทั้งนี้ ในบางแบรนด์ จะมีการออกแบบมาให้มี Sensor ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Rotor recognition sensor ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบที่กำลังสวมใส่อยู่ในเครื่อง ซึ่งโดยทั่วไปมีไว้เพื่อจำกัดความเร็วรอบ ให้เหมาะสมกับหัวปั่น

แต่ในบางครั้ง Sensor ดังกล่าว มีไว้เพื่อล็อคหัวปั่นที่สามารถใช้งานได้กับเครื่องตัวนี้ให้ได้แค่หัวปั่นชนิดเดียว หากใส่หัวปั่นตัวอื่น Sensor จะทำการล็อคไม่ให้เครื่องสามารถทำงานได้

โดยสรุป หากท่านต้องการความชัวร์ แนะนำให้ถามทางผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิต เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง โดยท่านไม่ควรเปลี่ยนหัวปั่นโดยที่ไม่ปรึกษากับทางตัวแทนจำหน่ายก่อน เนื่องจากหากเป็นหัวปั่นที่ไม่สามารถใช้ด้วยกันกับตัวเครื่องได้ เครื่องอาจจะมีปัญหาภายหลัง เช่น หัวปั่นแตก, แกนมอเตอร์เบี้ยว ฯลฯ

สามารถตั้งค่าความเร็วรอบได้สูงสุดเท่าไหร่ และตั้งค่าที่กี่รอบต่อนาที (RPM)?

สำหรับความสมรรถภาพในการตั้งค่าของเครื่องปั่นเหวี่ยงในแต่ละชนิดจะมีความยืดหยุ่นของเรื่องความเร็วที่สูงและต่ำที่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องปั่นฮีมาโตคริต ที่มีไว้เพื่องานปั่นหาค่าฮีมาโตคริต เครื่องจะต้องมีความเร็วสูงสุดอย่างน้อย 12000 รอบต่อนาที เพื่อที่จะสามารถปั่นเหวี่ยงและได้ค่าฮีมาโตคริตออกมาได้ 

อย่างไรก็ตามสำหรับงานปั่นตกตะกอนทั่วไป ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปั่นด้วยความเร็วสูงถึง 12000 รอบต่อนาที จึงทำให้เครื่องปั่นตกตะกอนทั่วไปมีความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 4000-6000 รอบต่อนาที 

เครื่องปั่นเหวี่ยงที่ใช้สำหรับงาน Cross matching หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เครื่องปั่นล้างเซลล์ (Cell Washing Centrifuge, Serofuge) มีความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 3500-4000 รอบต่อนาที 

และในการใช้งานจริง ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องตั้งค่าความเร็วรอบไว้ที่สูงสุดตามสมรรถภาพของตัวเครื่อง ซึ่งความเร็วรอบที่ใช้ก็จะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการปั่นเหวี่ยง 

ต้องทำให้เครื่องปั่นสมดุลอยู่เสมอ

ในการใส่หลอดตัวอย่างลงในหัวปั่น ผู้ใช้งานต้องคำนึงเสมอว่า ต้องใส่หลอดที่มีน้ำหนักเท่ากันในฝั่งตรงข้ามเสมอ เพื่อให้เกิดความสมดุลกัน โดยหากมีการปั่นเหวี่ยงโดยที่ไม่เกิดการสมดุลกัน จะทำให้ตัวเครื่องปั่นเหวี่ยงสั่น และอาจเกิดอันตรายต่อทั้งตัวผู้ใช้งานและตัวเครื่องได้

อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องปั่นเหวี่ยงส่วนใหญ่จะมี Feature ที่รักษาความปลอดภัย ในส่วนนี้ คือเครื่องจะหยุดการทำงานหากมีการสั่นสะเทือนเกิดขึ้น (ปั่นโดยไม่สมดุล) ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องกังวลใจในส่วนนี้

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้