Centrifuge รุ่นไหนดีในปี 2025? รวมเครื่องปั่นเลือดยอดนิยมที่แล็บเลือกใช้

ในปี 2025 เครื่องปั่นเลือด (Centrifuge) ยังคงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในทุกห้องแล็บและคลินิก ไม่ว่าจะเพื่อการตรวจเลือด, แยกเซรั่ม, หรืองาน PRP ที่ต้องการค่าความเร็วรอบที่แม่นยำและความคงที่สูง
บทความนี้เราจะพาไปรู้จักเกณฑ์ในการเลือกซื้อ Centrifuge ให้เหมาะกับการใช้งาน และรวมรุ่นที่ได้รับความนิยมจริงจากแล็บในประเทศไทย

Centrifuge คืออะไร และมีหน้าที่อย่างไรในห้องแล็บ

Centrifuge คือเครื่องปั่นเหวี่ยง หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า "เครื่องปั่นเลือด" สามารถปั่นเหวี่ยงตัวอย่างได้หลายอย่าง เช่น เลือด, ปัสสาวะ หรือแม้กระทั่งสเปิร์ม เพื่อแยกส่วนประกอบต่าง ๆ ตามความหนาแน่น เช่น เม็ดเลือดแดง, เกล็ดเลือด พลาสมา ฯลฯ

หลักการทำงานของ Centrifuge

เครื่องจะปั่นเหวี่ยงตัวอย่างด้วยแรงเหวี่ยง (Centrifugal Force) ทำให้ส่วนประกอบที่หนักกว่าเคลื่อนลงไปด้านล่าง ส่วนของเหลวที่เบากว่าจะลอยตัวขึ้นมาอยู่ด้านบน เช่น

• เม็ดเลือดแดง → ตกตะกอนด้านล่าง
• เซรั่ม/พลาสมา → อยู่ชั้นบน

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ Centrifuge

การเลือกเครื่องปั่นเลือดให้เหมาะกับงานในห้องแล็บ มีปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาดังนี้

1.ความเร็วรอบ (RPM) และค่าแรงเหวี่ยงสัมพัทธ์ (RCF)

• เครื่องแล็บทั่วไป ใช้ประมาณ 3,000–4,000 RPM
• เครื่องปั่นเลือดงาน PRP ควรใช้ได้ 2,500-4,000 RPM
• ควรตรวจสอบว่าเครื่องสามารถตั้งค่า RCF (Relative Centrifugal Force) ได้หรือไม่ เพราะเทคนิคในการปั่นเหวี่ยงของแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน บางท่านอาจอิงจาก RPM หรือบางท่านอาจอิงจาก RCF

2.ประเภทหัวปั่น (Rotor Type)

• Fixed Angle Rotor เป็นหัวปั่นมาตรฐานสำหรับเครื่องปั่นเลือด ซึ่งมีมุมในการปั่นเหวี่ยงที่คงที่ (ราว ๆ 25-40 องศา) เหมาะกับงานปั่นเลือดทั่วไป
• Swing Out Rotor หัวปั่นที่เมื่อทำการปั่นเหวี่ยงแล้วตัว bucket จะมีการลักษณะการหมุนอย่างรวดเร็วทำให้ขนานกับแกนโรเตอร์ เหมาะกับการแยกตัวอย่างให้เป็นชั้น ๆ เรียงตัวกันสวยงาม เนื่องจาก Nature ของการหมุน จึงทำให้ส่วนประกอบที่แยกออกมาเรียงกันเป็นระเบียบ สามารถดึงเอาส่วนที่ต้องการออกมาใช้ได้ง่าย

3.ปริมาตรและจำนวนช่อง (Tube Capacity)

ขึ้นอยู่กับประเภทหลอดที่ใช้ — เช่น 4, 8, 12, 16 หรือ 24 ช่อง ฯลฯ
แนะนำให้เลือกเครื่องที่รองรับหลอดได้หลายขนาด โดยขนาดมาตรฐานสำหรับการปั่นเลือด / ปัสสาวะจะอยู่ที่ 10 mL, 15 mL

4.ระบบทำความเย็น (Refrigeration System)

เครื่องปั่นเลือดปกติจะไม่มีระบบควบคุมความเย็น แต่ในบางครั้งในการปั่นเหวี่ยงตัวอย่างบางประเภท จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ได้ตัวอย่างที่ต้องการออกมาได้โดยที่ตัวอย่างไม่เสียหาย

เครื่องปั่นเหวี่ยงแบบ Refrigerated Centrifuge จึงเหมาะสำหรับตัวอย่างที่ไวต่ออุณหภูมิ และต้องมีความจำเป็นที่ต้องอยู่ในอุณหภูมิต่ำหรือคงที่

รวมรุ่น Centrifuge ยอดนิยมในปี 2025

1.รุ่น TDZ4WS

หัวปั่น: Fixed Angle Rotor

คุณสมบัติ:

• สามารถจุได้ 24 หลอด
• ความเร็วสูงสุด 4000 RPM
• หน้าจอแบบ LCD
• สามารถตั้งค่าอัตราเร่ง - เบรกได้

2.รุ่น LCFA

หัวปั่น: Fixed Angle Rotor

คุณสมบัติ:

• สามารถจุได้ 24 หลอด
• มีหน่วยเก็บความจำ ทำให้ประหยัดเวลาในการต้องมาเซ็ตค่าใหม่ในแต่ละครั้ง
• วัสดุโครงสร้างทำจากโครงเหล็ก แข็งแรง คงทน
• รับประกัน 2 ปี

3.รุ่น M2415P

หัวปั่น: Fixed Angle Rotor

คุณสมบัติ:

• สามารถจุได้ 24 หลอด
• มีหน่วยเก็บความจำ 10 โปรแกรม
• หน้าจอเป็นระบบสัมผัส TFT
• ความเร็วสูงสุด 5000 RPM

4.รุ่น LC-04C

หัวปั่น: Fixed Angle Rotor

คุณสมบัติ:

• หน้าจอเป็นระบบ LED
• ตั้งอัตราเร่ง / อัตราเบรกได้

เลือก Centrifuge ให้เหมาะกับงานคือหัวใจสำคัญ

ไม่ว่าจะเป็นการปั่นเลือดทั่วไป หรือการใช้งานเฉพาะทางอย่าง PRP, Coagulation หรือ Plasma Separation
สิ่งสำคัญคือ เลือกเครื่องที่มีรอบหมุนและหัวปั่นตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานจริง และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากผู้ผลิต

หากคุณกำลังมองหาเครื่อง Centrifuge สำหรับคลินิกหรือห้องแล็บ ที่มีคุณภาพสูงและผ่านการรับรอง สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่

เพื่อรับคำแนะนำฟรี