เครื่องปั่นเลือดสำหรับงาน Coagulation คืออะไร? ต่างจากเครื่องปั่นทั่วไปอย่างไร

ในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Test) โดยเฉพาะการตรวจด้านการแข็งตัวของเลือด (Coagulation Test) เช่น PT, APTT หรือ Fibrinogen หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ การปั่นเลือด เพื่อแยกพลาสมาออกจากเม็ดเลือด เครื่องมือที่ใช้ในขั้นตอนนี้คือ เครื่องปั่นเลือดสำหรับงาน Coagulation ซึ่งมีหลักการเฉพาะและแตกต่างจากเครื่องปั่นทั่วไป

Coagulation คืออะไร และทำไมต้องใช้พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดต่ำ (PPP)

Coagulation หมายถึง กระบวนการแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยในงานห้องแล็บ จะมีการตรวจวัดประสิทธิภาพของการแข็งตัวนี้ด้วยการทดสอบต่าง ๆ เช่น PT (Prothrombin Time) และ APTT (Activated Partial Thromboplastin Time) เพื่อประเมินความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของเลือด

สำหรับการตรวจเหล่านี้ แล็บต้องใช้พลาสมาที่แทบไม่มีเกล็ดเลือดเหลืออยู่ เรียกว่า Platelet Poor Plasma (PPP) ซึ่งจะได้มาหรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเครื่องปั่นเลือดที่ใช้และเงื่อนไขการปั่นโดยตรง

เครื่องปั่นเลือดสำหรับงาน Coagulation คืออะไร

เครื่องปั่นเลือด Coagulation คือ Centrifuge ที่ออกแบบมาเพื่อแยกส่วนของพลาสมา (Plasma) จากเม็ดเลือดโดยไม่ทำลายโครงสร้างของเกล็ดเลือด และไม่กระทบกระบวนการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้ได้ตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการทดสอบทาง Coagulation

โดยทั่วไปเครื่องจะมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น

• ตั้งค่าแรงเหวี่ยง (Relative Centrifugal Force RCF) ได้ละเอียดในช่วง 1500 - 3000 g
• ควบคุมเวลาและความเร็วได้แม่นยำ เช่น 1500 g นาน 15 นาที
  
• มีระบบเบรกอัตโนมัติแบบนุ่มนวล ลดความเสี่ยงเกล็ดเลือดแตก

ต่างจากเครื่องปั่นเลือดทั่วไปอย่างไร

เครื่องปั่นเลือดทั่วไป (เช่น ที่ใช้ในงาน Serum หรือ PRP) มักถูกออกแบบเพื่อแยกชั้นของซีรัม (Serum) โดยใช้แรงเหวี่ยงสูงกว่าและระยะเวลาสั้นกว่า แต่สำหรับงาน Coagulation ต้องคำนึงถึง ความสมบูรณ์ของส่วนประกอบในเลือด มากกว่า ความเร็วในการแยก

เปรียบเทียบระหว่างเครื่องปั่นทั่วไปกับเครื่องปั่น Coagulation

เหตุผลที่ต้องใช้เครื่องปั่นเลือดเฉพาะทางสำหรับ Coagulation

หากใช้เครื่องปั่นทั่วไปที่มีแรงเหวี่ยงสูงเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหา Hemolysis (เม็ดเลือดแดงแตก) หรือ Platelet Activation ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าการทดสอบ PT และ APTT

ดังนั้น ห้องแล็บที่ต้องการความแม่นยำจึงเลือกใช้เครื่องที่สามารถควบคุมแรงเหวี่ยงได้ละเอียดและมีความสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลตรวจมีความถูกต้องสูงสุด

แนวทางเลือกเครื่องปั่นเลือดสำหรับงาน Coagulation

• เลือกเครื่องที่สามารถปั่นได้ในช่วงระหว่าง 2000-5000 RPM
• เลือกเครื่องที่แสดงค่า RCF (g-force) ได้ ไม่ใช่แค่ RPM
  
• ขนาด rotor และหลอดต้องรองรับหลอด 3.2% Sodium Citrate ซึ่งเป็น anticoagulant มาตรฐาน

เครื่องปั่นเลือดสำหรับงาน Coagulation รุ่นแนะนำ

รุ่น: Pro-Analytical C-MICRO

คุณสมบัติ:

• ความเร็วสูงสุด 15000 RPM สำหรับรุ่น (สำหรับหัวปั่นที่แนะนำจะมีความเร็วสูงสุด 8000 RPM
• หัวปั่นชนิด Fixed Angle Rotor
• หัวปั่นสามารถจุหลอดขนาด 13x75 mm ได้ 4 หลอด และหลอดขนาด 13x100mm ได้ 4 หลอด (8x10ml) 

สรุป

เครื่องปั่นเลือดสำหรับงาน Coagulation คืออุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์การแข็งตัวของเลือดโดยตรง การเลือกใช้เครื่องที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดต่ำ (PPP) ลดความเสี่ยงผลคลาดเคลื่อน และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลตรวจ

สำหรับแล็บหรือโรงพยาบาลที่ต้องการยกระดับความแม่นยำในการทดสอบ PT/APTT การเลือกใช้ เครื่องปั่นเลือด Coagulation โดยเฉพาะ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาได้ที่

Line OA: @medinter